ปีพุทธศักราช 2508 เหนือน่านฟ้าดองฮอย เวียดนามเหนือ
“เจบี... มิก ตามคุณอยู่ที่ 6 นาฬิกา”
เสียงของเพื่อนในฝูงบินเดียวกัน ทำให้ชายหนุ่มก้มลงมองยังด้านล่างตามทิศทางที่ได้รับแจ้ง ก็พบว่าเครื่องบินมิก สร้างจากสหภาพโซเวียต สมถรรภาพสูงในการทำลายล้างของข้าศึก กำลังบินออกจากม่านเมฆปรากฏตัวขึ้นในระยะสายตาเบื้องล่าง
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่เวลานี้เป็นเวลาแห่งความเป็นความตายของนักบินทุกคนที่บินรบอยู่เหนือดองฮอย เวียดนามเหนือ หากขาดความระมัดระวังแล้วมีหวังได้ถูกสอยร่วงจากฟ้าและตายโดยไม่รู้ตัว
ฝูงบินของเขารับภารกิจโจมตีเมืองดองฮอย หลังจากทหารอเมริกันถูกโจมตีที่เมืองเปลกู ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของนายทหารที่ปรึกษาอเมริกัน นายทหารถูกฆ่าตายแปดคน และยังบาดเจ็บอีกไม่น้อย ประธานาธิบดีจอห์นสันจึงออกคำสั่งให้โจมตีเมืองดองฮอง ในเวียดนามเหนือเป็นการตอบแทน
ในขณะที่เวียดกงเองก็เข้าโจมตีกีนอง ทำให้ทหารอเมริกันตายไป 23 คนและบาดเจ็บอีกยี่สิบกว่าคน ทางกองทัพตอบโต้โดยการทิ้งบอมบ์เวียดนามเหนือโดยใช้แผนสายฟ้าคำราม โรลลิ่งธันเดอร์ และฝูงบินของเขาก็เป็นหนึ่งในเครื่องบินหลายลำที่รับภารกิจนี้มาด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งที่จะได้ทำหน้าที่ของชายชาติทหารแก้แค้นให้เพื่อนทหารด้วยกัน
แต่การโจมตีในภาวะแบบนี้ทำให้ฝูงบินของเขาเสียเปรียบอยู่ไม่น้อย เพราะอากาศเหนือน่านฟ้าปิด ทำให้ฝูงมิกของข้าศึกได้เปรียบ เพราะคุ้นเคยกับการถูกโจมตีในอากาศแบบนี้เสียแล้ว ฝูงมิกของข้าศึกจึงใช้อากาศที่ปิดนั้นหลบซ่อนตัวในหมู่เมฆเหนือน่านฟ้า
เรืออากาศเอก เจค เจ บราวส์หรือเรียกสั้นๆ ว่าเจบี เป็นผู้นำฝูงบิน พลิกตัวเครื่องไปทางซ้าย และปล่อยให้นักบินในเครื่องลำถัดไปเข้ามาแทนที่แก้ปัญหาที่เหลือ ส่วนเขาจะเลือกที่จะล่อเครื่องมิกที่โผล่ออกมาจากเมฆในตำแหน่ง 11 นาฬิกา แต่แล้วมันก็หายลับเข้าไปในกลีบเมฆอีกครั้งหลังจากที่เขาส่งอาวุธปล่อยจากอากาศ สู่อากาศไปทักทายหนึ่งนัดแต่พลาดเป้า
แล้วมิกอีกเครื่องก็โผล่ออกมาที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกาของเขาห่างออกไปเพียงไมล์ครึ่ง ชายหนุ่มเปิดสันดาปท้ายเครื่องเพื่อเร่งเครื่องยนต์ หมุนตัวไปทางขวา เพื่อตัดวงกลมในการหมุนตัว ให้อยู่ล่างและข้างหลังมิกเครื่องนั้น ก่อนจะยิงมันอย่างช้าๆ
“ทำได้ดีนี่เจบี”
เสียง เรืออากาศโทวอลเตอร์ ไวท์ คู่บินของเจค และทำหน้าหน้าที่รองผู้ฝูง เรียกเข้ามาทางเครื่องมือสื่อสาร ก่อนจะนำเครื่องบินๆ เข้ามาใกล้จนเห็นอีกฝ่ายกำลังยกนิ้วโป้ชูให้
“นายก็ทำได้ดีนี่” เขาตอบโต้กลับไป แล้วยกหัวนิ้วโป้งให้อีกฝ่ายเช่นกัน
เมื่อครู่ก่อนเครื่องมิกของข้าศึก จะปรากฏตัวออกมาจากม่านเมฆ เขาต้องบินวนด้านล่างถึงสองรอบ ปล่อยทิ้งระเบิด พวกข้าศึกถึงจะรู้ตัวว่าโดนโจมตี ก่อนกลับมาเร่งสันดาปหนีมิกลำตะกี้ ซึ่งโดนวอลเตอร์ยิงตก ทำให้เชื้อเพลิงในถังเหลือปริมาณไม่มากนัก
“ฝูงสามแฟนทอม สี่ลำของ สโตนเข้ามาแล้ว”
ตราบเวลามิอาจกั้นรัก บทนำ
“เจบี... มิก ตามคุณอยู่ที่ 6 นาฬิกา”
เสียงของเพื่อนในฝูงบินเดียวกัน ทำให้ชายหนุ่มก้มลงมองยังด้านล่างตามทิศทางที่ได้รับแจ้ง ก็พบว่าเครื่องบินมิก สร้างจากสหภาพโซเวียต สมถรรภาพสูงในการทำลายล้างของข้าศึก กำลังบินออกจากม่านเมฆปรากฏตัวขึ้นในระยะสายตาเบื้องล่าง
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่เวลานี้เป็นเวลาแห่งความเป็นความตายของนักบินทุกคนที่บินรบอยู่เหนือดองฮอย เวียดนามเหนือ หากขาดความระมัดระวังแล้วมีหวังได้ถูกสอยร่วงจากฟ้าและตายโดยไม่รู้ตัว
ฝูงบินของเขารับภารกิจโจมตีเมืองดองฮอย หลังจากทหารอเมริกันถูกโจมตีที่เมืองเปลกู ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของนายทหารที่ปรึกษาอเมริกัน นายทหารถูกฆ่าตายแปดคน และยังบาดเจ็บอีกไม่น้อย ประธานาธิบดีจอห์นสันจึงออกคำสั่งให้โจมตีเมืองดองฮอง ในเวียดนามเหนือเป็นการตอบแทน
ในขณะที่เวียดกงเองก็เข้าโจมตีกีนอง ทำให้ทหารอเมริกันตายไป 23 คนและบาดเจ็บอีกยี่สิบกว่าคน ทางกองทัพตอบโต้โดยการทิ้งบอมบ์เวียดนามเหนือโดยใช้แผนสายฟ้าคำราม โรลลิ่งธันเดอร์ และฝูงบินของเขาก็เป็นหนึ่งในเครื่องบินหลายลำที่รับภารกิจนี้มาด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งที่จะได้ทำหน้าที่ของชายชาติทหารแก้แค้นให้เพื่อนทหารด้วยกัน
แต่การโจมตีในภาวะแบบนี้ทำให้ฝูงบินของเขาเสียเปรียบอยู่ไม่น้อย เพราะอากาศเหนือน่านฟ้าปิด ทำให้ฝูงมิกของข้าศึกได้เปรียบ เพราะคุ้นเคยกับการถูกโจมตีในอากาศแบบนี้เสียแล้ว ฝูงมิกของข้าศึกจึงใช้อากาศที่ปิดนั้นหลบซ่อนตัวในหมู่เมฆเหนือน่านฟ้า
เรืออากาศเอก เจค เจ บราวส์หรือเรียกสั้นๆ ว่าเจบี เป็นผู้นำฝูงบิน พลิกตัวเครื่องไปทางซ้าย และปล่อยให้นักบินในเครื่องลำถัดไปเข้ามาแทนที่แก้ปัญหาที่เหลือ ส่วนเขาจะเลือกที่จะล่อเครื่องมิกที่โผล่ออกมาจากเมฆในตำแหน่ง 11 นาฬิกา แต่แล้วมันก็หายลับเข้าไปในกลีบเมฆอีกครั้งหลังจากที่เขาส่งอาวุธปล่อยจากอากาศ สู่อากาศไปทักทายหนึ่งนัดแต่พลาดเป้า
แล้วมิกอีกเครื่องก็โผล่ออกมาที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกาของเขาห่างออกไปเพียงไมล์ครึ่ง ชายหนุ่มเปิดสันดาปท้ายเครื่องเพื่อเร่งเครื่องยนต์ หมุนตัวไปทางขวา เพื่อตัดวงกลมในการหมุนตัว ให้อยู่ล่างและข้างหลังมิกเครื่องนั้น ก่อนจะยิงมันอย่างช้าๆ
“ทำได้ดีนี่เจบี”
เสียง เรืออากาศโทวอลเตอร์ ไวท์ คู่บินของเจค และทำหน้าหน้าที่รองผู้ฝูง เรียกเข้ามาทางเครื่องมือสื่อสาร ก่อนจะนำเครื่องบินๆ เข้ามาใกล้จนเห็นอีกฝ่ายกำลังยกนิ้วโป้ชูให้
“นายก็ทำได้ดีนี่” เขาตอบโต้กลับไป แล้วยกหัวนิ้วโป้งให้อีกฝ่ายเช่นกัน
เมื่อครู่ก่อนเครื่องมิกของข้าศึก จะปรากฏตัวออกมาจากม่านเมฆ เขาต้องบินวนด้านล่างถึงสองรอบ ปล่อยทิ้งระเบิด พวกข้าศึกถึงจะรู้ตัวว่าโดนโจมตี ก่อนกลับมาเร่งสันดาปหนีมิกลำตะกี้ ซึ่งโดนวอลเตอร์ยิงตก ทำให้เชื้อเพลิงในถังเหลือปริมาณไม่มากนัก
“ฝูงสามแฟนทอม สี่ลำของ สโตนเข้ามาแล้ว”